ในฐานะผู้สอนการตลาด คำถามนี้เป็นคำถามที่ได้รับบ่อยที่สุดค่ะ 🙂
เกดแนะนำให้ท่านเซฟบทความนี้ไว้ เตรียมกระดาษ ปากกา ลองอ่านทีละขั้นตอน ค่อย ๆ ทำไปด้วยกันนะคะ ในบทความ จะมีคลิปประกอบ เพื่อให้ทุกท่านเข้าใจง่ายขึ้น เกดอยากให้เหมือนทุกท่านนั่งเรียนกับเกดในคลาสเรียนจริง ๆ
ขั้นตอนง่าย ๆ ในการเริ่มทำการตลาด (แบบง่าย ๆ) มีดังนี้
Step 1: ปรับ Mindset– การตลาด ไม่ใช่การขาย
ลองนึกถึงแบรนด์ที่เราชอบมาก ๆ สัก 1 แบรนด์
อาจเป็นแบรนด์เสื้อผ้า รองเท้ากีฬา อุปกรณ์ Gadget ขนมขบเคี้ยว
ทำไมเราถึงชอบแบรนด์นั้น ๆ คะ?
ตัวเกดเอง ปวารณาเป็นสาวกของแบรนด์ MUJI เกดชอบสินค้าที่ใช้งานได้ง่าย ตอบโจทย์ ดีไซน์เรียบง่าย เอามาวางในห้องแล้วดูสบายตา เวลาเดินเข้าไปในร้าน รู้สึกโล่ง โปร่ง เพลงที่เปิดในร้าน ก็ทำให้เราอารมณ์ดี
การตลาด “ที่ดี” ไม่ใช่แค่การโฆษณาเยอะ ๆ หรือดีไซน์โฉบเฉี่ยวสวยงาม แต่คือ “การสร้างคุณค่าและทำให้ผู้คนมีความสุขมากขึ้น”
แบรนด์ MUJI ทำให้ห้องเกดดูสะอาด เรียบร้อยขึ้น และช่วยให้เกดรู้สึกสบายตา สบายใจ
แบรนด์ NIKE ทำให้บางท่านสนุกกับการออกกำลังกายมากขึ้น ผ่านรองเท้ากีฬาดี ๆ มีแอพพลิเคชั่นช่วยให้เราติดตามผลการออกกำลังกายได้ เห็นเป็นกราฟสวยงาม
แบรนด์ Uniqlo ช่วยให้เรามีเสื้อผ้าดี ๆ ใส่ เสื้อที่ใส่แล้วไม่ร้อนมาก เสื้อลายสวย ๆ
“แบรนด์ที่ทำการตลาดดี ล้วนแต่เป็นแบรนด์ที่คิดถึงลูกค้า และอยากทำให้ลูกค้ามีความสุข มีชีวิตที่ดี”
Step 2: หาคุณค่าของสินค้าเราให้เจอ
เมื่อท่านมี Mindset เริ่มต้นที่ดีแล้ว ลองมาเริ่มหาคุณค่าของสินค้าเรากันนะคะ
คำถามง่าย ๆ ที่นักการตลาดควรตอบให้ได้ คือ เราอยากทำให้ “ใคร” มีความสุข “อย่างไร”
ลองชมคลิป การหา “คุณค่า” ของสินค้า และเขียน Value Proposition ของเราออกมานะคะ
ส่วนคลิปนี้ เป็น Option เสริม เป็นเซ็ทคำถามที่จะช่วยให้เราหาคุณค่าหรือไอเดียสินค้าได้ง่ายขึ้น
Step 3: เกลาไอเดีย
ชมคลิปนี้ และขัดเกลาไอเดียที่ท่านคิดได้ในข้อ 2.
ตรวจสอบว่า ไอเดียของเรานั้น …
หากท่านเพิ่งเริ่มทำธุรกิจ การทำข้อ 3. (Inimitable) อาจจะยาก ให้เน้นไปที่ข้อ 2. แล้วตามด้วยข้อ 1. นะคะ
Step 4: จินตนาการคนที่จะดีใจเมื่อได้เจอสินค้าเรา
เมื่อท่านพอเห็นภาพแล้วว่า ท่านอยากทำให้ลูกค้ามีความสุขอย่างไร ?
(ภาษาในคลิป คือ Value Proposition)
เช่น กรณีของเกด เกดมีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ “Makoto Marketing … หลักสูตรการตลาดแบบจริงใจสไตล์ญี่ปุ่น”
ตอนเขียน เกดรู้ว่า เกดอยากเขียนหนังสือการตลาดที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย เหมือนได้เรียนในห้องเรียนจริง ๆ
ขณะเขียน ก็เลยจินตนาการว่า คนแบบไหนจะอยากอ่านหนังสือการตลาดแบบนี้ ?
เกดนึกภาพคนที่กำลังจะเริ่มทำธุรกิจ หรือคนที่ฝันว่า สักวัน อยากทำธุรกิจ แล้วกำลังศึกษาหาความรู้
เมื่อเห็นภาพคนชัด เกดก็เกลาหนังสือได้ง่ายขึ้น เกดรู้ว่า คนกลุ่มนี้มีเวลาจำกัด ต้องการหนังสือที่เข้าใจง่าย ต้องการนำไปใช้ได้จริง ก็เลยแบ่งเป็นบทย่อย ๆ 20 บท มีกรณีศึกษาให้เข้าใจง่าย มีแบบฝึกหัด พร้อมเฉลย ให้ลองหัดทำ ฝึกทำ ตอนท้าย ก็มีชุดคำถาม ให้ลองไปเขียนแผนการตลาดของตนเองจนได้
การที่เกดปรับสินค้า (หนังสือ) ตนเองได้ชัดขึ้นอีก เพราะเห็นภาพลูกค้าตนเองชัดมากนั่นเอง
แนะนำให้ท่านลองจินตนาการถึงลูกค้าเรานะคะ เขาเป็นใคร หน้าตาอย่างไร แต่งตัวอย่างไร ทำไมถึงจะสนใจสินค้าเรา
สิ่งนี้จะส่งผลต่อในการออกแบบสินค้า และการสื่อสารหรือโฆษณากับลูกค้าค่ะ
Step 5: สื่อสารคุณค่าของเรา
เมื่อเห็นภาพลูกค้า (ในฝัน) ของเราชัดแล้ว มีสินค้าที่ตั้งใจจะขายแล้ว
ขั้นตอนถัดมา คือ การเข้าใจ Customer Journey Map กันค่ะ
ทำอย่างไร ลูกค้าในฝันคนนั้นถึงจะมาเจอเราได้นะ?
ลองชมคลิปนี้ได้เลยนะคะ
ขั้นตอนการทำการตลาดทั้ง 5 ขั้นตอนนี้ อาจจะแตกต่างกับขั้นตอนการทำการตลาดในตำราเรียนบ้าง แต่เกดคิดว่า สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย หรือผู้ที่ไม่มีประสบการณ์การตลาดเท่าไร ขั้นตอนแบบนี้ จะช่วยให้นึกภาพออกมากกว่าค่ะ 🙂
ขอให้ทุกท่านมีความสุขและสนุกกับการทำการตลาดนะคะ
เพราะการตลาด คือ ศาสตร์สร้างสุข
Note: Credit photo:
Neil Daftary