ในลิสต์ “สถานที่ในญี่ปุ่นที่อยากไป” ของดิฉัน
ได้จารึกชื่อสถานที่เพิ่มอีกแห่งในวันนี้ …
เมืองโคสึเกะ จังหวัดยามานาชิ เคยเผชิญกับวิกฤติหนัก
ในอดีต ในเมืองเคยเลื่องชื่อเรื่องการเพาะเลี้ยงผึ้งและการเกษตร
แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ ด้วยสังคมผู้สูงอายุ
และธุรกิจที่ซบเซา จำนวนประชากรของเมืองค่อย ๆ ลดลงจนเหลือเพียงแค่ 700 คน
มีการพยากรณ์ว่า หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป
ในปี 2060 เมืองนี้จะมีประชากรเหลือเพียง 300 กว่าคนเท่านั้น
เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ค่อยจะดีเท่าไร
ผู้ใหญ่บ้านจึงตีกลองร้องประชุม
ชาวบ้านก็มาชุมนุม … หาข้อดีของเมืองตนเอง
หมู่บ้านโคสึเกะมีธรรมชาติที่งดงาม
ร้อยละ 95 ของหมู่บ้านเป็นผืนป่า
มีบ้านเก่าแก่ว่างถึง 70-100 หลัง
หากมองว่า ก็แค่ชนบทบ้าน ๆ มีภูเขา ป่าไม้ ทุ่งนา จะว่าไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไร
แต่ถ้าคิดดี ๆ สิ่งเหล่านี้ น่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้นะ!
ชาวเมืองเลยพัฒนาเป็นคอนเซปท์
“โรงแรมที่สร้างจากความร่วมใจของชาวบ้านทั้งหมู่บ้านกว่า 700 คน”
พวกเขาเริ่มรีโนเวทบ้านเก่าหนึ่งหลัง
เชิญเชฟชื่อดังมาช่วยออกแบบเมนู Dinner Course
จากนั้น ชาวบ้านก็เริ่มแบ่งหน้าที่กัน …
คุณลุงคนหนึ่ง อาสาเป็น “คนขับรถ” ไปรับแขกที่มา
คุณป้าอาสารับผิดชอบเป็น “ไกด์ท้องถิ่น”
พานักท่องเที่ยวเดินชมในหมู่บ้าน
แม้แต่คุณยายวัย 90 ก็มีความรับผิดชอบ
คุณยายได้ตำแหน่ง “ยายข้างบ้าน”
กล่าวคือ หากนักท่องเที่ยวเหงา ไม่รู้จะคุยกับใคร
ก็กดกริ่ง เข้ามาจิบน้ำชา กินขนมกรุบกริบ
และสนทนากับคุณยายได้ (อันนี้ดี …)
ทุกคนมีส่วนร่วมหมด
พวกเขาเรียกถนนในหมู่บ้านว่า “ระเบียงของโรงแรม”
เรียกร้านขายของและซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นว่า “เล้าจ์โรงแรม”
และนิยามทุกคนในหมู่บ้านว่าเป็น “พนักงานโรงแรม”
จากความสามัคคี ร่วมมือกันแก้ปัญหาเช่นนี้
ใน 5 ปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวมาที่นี่เพิ่มถึง 2 เท่า
มีจำนวนประชากรที่อพยพเข้ามาอยู่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
(โดยมาก คือ คนที่มาเที่ยวแล้วติดใจ)
ปัจจุบัน ร้อยละ 15 ของประชากรในหมู่บ้าน
เป็นหนุ่มสาว หรือครอบครัวที่ย้ายมาอยู่ที่นี่
เพราะชื่นชอบชีวิตต่างจังหวัด ความสงบเงียบ และธรรมชาติที่งดงาม
เห็นปัญหาเดียวกัน …
นำของดีมาใช้ …
แบ่งหน้าที่ …
และร่วมมือร่วมใจกันทำถึงที่สุด
นั่นคือวิถีของชาวบ้านโคสึเกะแห่งนี้
ชมภาพสวย ๆ พร้อม Link ป้ายยาจองห้องพัก :
https://nipponia-kosuge.jp/